หลายคนอาจเคยเจอเหตุการณ์ "กดสั่งพิมพ์แล้ว แต่เครื่องปริ้นไม่ขยับ!" หรือ "ไฟสถานะขึ้นแต่ไม่พิมพ์" ปัญหาเหล่านี้พบได้บ่อยในสำนักงานและบ้าน แต่คุณไม่จำเป็นต้องรีบเรียกช่างเสมอไป เพราะบางปัญหาสามารถ แก้ได้เองง่ายๆ ภายในไม่กี่นาที

บทความนี้จะแนะนำ ขั้นตอนเบื้องต้นในการตรวจเช็กและแก้ปัญหาเครื่องพิมพ์ไม่ทำงาน ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง

สาเหตุทั่วไปที่เครื่องพิมพ์ไม่พิมพ์

1. เครื่องพิมพ์ไม่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

วิธีแก้ปัญหา :

ตรวจสอบสาย USB หรือ Wi-Fi ว่าเชื่อมต่ออยู่หรือไม่

ลองถอดสายออกแล้วเสียบใหม่ หรือรีสตาร์ทเราเตอร์หากใช้ Wi-Fi

ตรวจสอบว่าเครื่องพิมพ์ Online อยู่หรือไม่ที่ Control Panel > Devices and Printers

2. ยังไม่ได้ติดตั้งหรืออัปเดตไดร์เวอร์

วิธีแก้ปัญหา :

ตรวจสอบว่ามีการติดตั้งไดร์เวอร์ที่ตรงรุ่นหรือไม่

ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการของผู้ผลิต (Epson, HP, Canon, Brother)

ติดตั้งใหม่และลองสั่งพิมพ์อีกครั้ง

3. เอกสารค้างในคิวพิมพ์

วิธีแก้ปัญหา :

ไปที่ Control Panel > Devices and Printers > คลิกขวาที่เครื่องพิมพ์

เลือก See what's printing แล้วลบงานพิมพ์ทั้งหมด

ลองสั่งพิมพ์ใหม่

4. ️ หัวพิมพ์ตัน / หมึกหมด

วิธีแก้ปัญหา :

ตรวจสอบระดับหมึกผ่านโปรแกรมของเครื่องปริ้น

ทำความสะอาดหัวพิมพ์ (Head Cleaning) จากซอฟต์แวร์ของเครื่อง

เปลี่ยนตลับหมึกหรือเติมหมึกใหม่

5. ️ มีข้อความแจ้งเตือนผิดปกติ

เช่น Paper Jam, Ink Low, Printer Offline

วิธีแก้ปัญหา :

ตรวจสอบกระดาษติดหรือไม่

ปิด/เปิดเครื่องใหม่ และรอระบบรีเซ็ต

เช็กผ่านแอปหรือหน้าจอเครื่องปริ้นว่าแจ้งเตือนอะไร และแก้ตามคำแนะนำ

เคล็ดลับเพิ่มเติม

ลองสั่งพิมพ์ไฟล์อื่นเพื่อเช็กว่าเป็นที่ไฟล์หรือไม่

ทดลองพิมพ์จากมือถือหรือเครื่องอื่น

อย่าลืมอัปเดต Windows หรือ macOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด

"การที่เครื่องปริ้น สั่งพิมพ์แล้วไม่ออก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างสายหลุด จนถึงไดร์เวอร์ไม่ตรงรุ่น แต่หลายครั้งก็สามารถ แก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง หากทำตามขั้นตอนในบทความนี้"

หากคุณลองหมดแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ สามารถติดต่อศูนย์บริการของแบรนด์นั้นๆ ที่ใช้งานอยู่

หรือถ้าเครื่องปริ้นเก่าเกินจะซ่อม อยากได้เครื่องใหม่ที่ตอบโจทย์ ติดต่อ พนักงานงานขาย เพื่อสอบถามได้เลย!